Apple เผยโฉม iPad Air รุ่น 11 นิ้ว และรุ่น 13 นิ้ว แบบใหม่หมด ขับเคลื่อนด้วยชิป M2

Apple ได้เปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ทั้งสองขนาด 11 นิ้วและ 13 นิ้ว ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่หมดและขับเคลื่อนด้วยชิป M2 ที่ทรงพลัง การมาถึงของ iPad Air ในสองขนาดนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เลือกอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน, เรียนรู้ หรือเล่นสนุก โดยทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับความสามารถที่น่าทึ่ง รวมถึงคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทำให้ iPad Air น่าใช้งานมากขึ้น เช่น กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP ที่วางในแนวนอน รองรับ Wi-Fi 6E และ 5G สำหรับรุ่นเซลลูลาร์ และการรองรับอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ อย่าง Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard

Bob Borchers รองประธานฝ่าย Product Marketing ของ Apple ได้กล่าวถึงการเปิดตัวครั้งนี้ว่าเป็นการยกระดับ iPad Air ให้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก ด้วยจอภาพ Liquid Retina ที่สวยงาม ประสิทธิภาพระดับปรากฏการณ์ของชิป M2 ความสามารถด้าน AI ที่น่าทึ่ง และดีไซน์สีสันสดใสที่พกพาสะดวก ซึ่งทำให้ iPad Air ทั้งทรงพลังและอเนกประสงค์ยิ่งกว่าเดิม

นอกจากนั้น คุณสมบัติใหม่ๆ ของ iPad Air ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านการทำงาน การเรียน และความบันเทิง ด้วยชิป M2 ที่มาพร้อม Neural Engine แบบ 16-core ทำให้ iPad Air เป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังสำหรับ AI ยิ่งไปกว่านั้น การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นด้วย Wi-Fi 6E และ 5G ยังช่วยให้ผู้ใช้ต่อติดกับโลกภายนอกได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงการรองรับอุปกรณ์เสริมชั้นนำอย่าง Apple Pencil Pro ที่มาพร้อมความสามารถใหม่ๆ ที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานไปอีกขั้น ทำให้ iPad Air รุ่นใหม่นี้เป็นอุปกรณ์ที่ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างหลากหลายและครอบคลุมทุกการใช้งาน

iPad Air ใหม่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อย่างการใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเครื่อง ใช้แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น รวมถึงใช้ทองคำและตะกั่วบัดกรีรีไซเคิล 100% ในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น และ iPad Air ใหม่ ยังได้มาตรฐานระดับสูงของ Apple ด้านการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังปลอดสารปรอท สารหน่วงการติดไฟกลุ่มโบรมีน และ PVC ในขณะที่บรรจุภัณฑ์ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก 100% ซึ่งทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 มากยิ่งขึ้น

วันนี้ Apple มีความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับการดำเนินงานในระดับองค์กรทั่วโลก และเราวางแผนที่จะทำให้ซัพพลายเชนในการผลิตทั้งหมดรวมถึงอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ด้วย

ที่มา: https://www.matichon.co.th/lifestyle/tech/news_4564676 

วันที่ 12 พฤษภาคม 2567