"ส.บรรจุภัณฑ์-SCG"มอบ เตียงกระดาษ20ล.สู้โควิด

มูลนิธิเอสซีจี จับมือสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย บริจาคเตียงกระดาษ-ฉากกั้น มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลสนามในกทม.และตจว. จากโรงงานสมาชิกนับสิบแห่ง

มูลนิธิเอสซีจี ร่วมกับสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย รวมพลังสู้วิกฤติโควิด-19 บริจาคเตียงกระดาษลูกฟูก 20,000 เตียง และฉากกั้น มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลสนามในกทม.และตจว. โดยผลิตจากโรงงานสมาชิกของสมาคมฯ หลายสิบแห่ง

นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะอุปนายกสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย ได้เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มูลนิธิเอสซีจีร่วมกับสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย ได้ผลิตและมอบเตียงกระดาษลูกฟูกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้นำไปใช้กับโรงพยาบาลสนามในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ รวมจำนวนประมาณ 20,000 เตียง เฉลี่ยราคาประมาณเตียงละ 1,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 20 ล้านบาท

ซึ่งเตียงกระดาษลูกฟูกจำนวนดังกล่าว ผลิตมาจากโรงงานหลายสิบแห่งซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมฯ นอกจากนั้นยังได้มีการผลิตฉากกั้นจากกระดาษลูกฟูก มอบให้กับโรงพยาบาลสนามอีกเป็นจำนวนมาก โดยใช้โรงงานผลิตที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลสนามแต่ละแห่งในจังหวัดต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลสนามในกรุงเทพมหานคร ก็ใช้โรงงานผลิตในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดใกล้เคียง เป็นต้น

นายชาธิป กล่าวต่อว่า ในช่วงวิกฤติโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ณ จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อต้นปี 2564 ก็ได้ใช้เตียงกระดาษลูกฟูกที่ผลิตจากบริษัท เฟล็กซ์โซ กราฟฟิก จำกัด (สำนักงานใหญ่) ของตน รวมถึงได้ผลิตและมอบฉากกั้นกระดาษลูกฟูก จำนวนประมาณ 200 ฉาก ราคาประมาณฉากละ 800 บาท รวมมูลค่าประมาณ 160,000-200,000 บาท โดยมอบให้โรงพยาบาลสนามในจังหวัดสมุทรสาคร แบบให้เปล่าเช่นกัน ซึ่งเตียงกระดาษลูกฟูกที่ผลิตให้กับโรงพยาบาลสนามในจังหวัดสมุทรสาครดังกล่าว มีจำนวนมากกว่า 3,000 เตียง เมื่อใช้ไม่หมดก็มีการส่งมอบให้ไปใช้กับโรงพยาบาลสนามอื่น ๆ เช่น ที่โรงพยาบาลสนามบางขุนเมียน และที่โรงพยาบาลสนามในจังหวัดต่าง ๆ

“ที่ผ่านมาทางหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดซื้ออุปกรณ์-เครื่องนอนที่ใช้กับเตียงผู้ป่วย รวมถึงจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และอุปกรณ์ด้านสาธารณูปโภค ให้กับโรงพยาบาลสนามแทบทุกแห่งในจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนเตียงกระดาษลูกฟูกนั้น แม้จะมีราคาใกล้เคียงกับเตียงเหล็กหรือเตียงไม้ แต่ก็มีข้อดีคือ เป็นวัสดุซึ่งโรงงานของเรามีอยู่ มีน้ำหนักเบากว่า เคลื่อนย้ายสะดวกกว่า เก็บรักษาได้ง่าย และยังสามารถนำกลับไปรีไซเคิล-แปรรูป-ผลิตซ้ำได้สะดวกอีกด้วย" นายชาธิป กล่าว

 

ที่มา: https://www.thansettakij.com/content/478951

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564