“ข้าวมาบุญครอง” รุกโลจิสติกส์ ทิ้งร้านอาหาร-ขยาย Non Rice

ผู้จัดการรายวัน 360 - พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน “ข้าวมาบุญครอง” ขยับใหญ่รอบ 10 ปี โละทิ้งร้านอาหาร เบนเข็มลุยนอนฟูด ปักหมุดแผน 5 ปี ลงทุนเบื้องต้น 2,000 ล้านบาท หวังบาลานซ์รายได้ 50% เท่ารายได้ข้าวถุง หรือในปี 2570 หวังรายได้ที่ 5,000 ล้านบาท ย้ำชัดตลาดข้าวถุง 50,000 ล้านบาท ปีนี้ไม่ขึ้นราคาแน่นอน

นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พี อาร์ จี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก นอกจากจะบริโภคข้าวน้อยลง ยังมีทางเลือก และมุ่งเรื่องสุขภาพมากขึ้น ทำให้ธุรกิจหลักอย่างข้าวถุงมีรายได้นิ่ง เติบโตได้ยาก บวกกับช่วงโควิด-19 ร้านอาหารได้รับผลกระทบ ทางบริษัทจึงได้ปิดตัวธุรกิจร้านอาหารลงรวมถึงขายออกไปจนหมด และมุ่งเพิ่มรายได้และสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ แทน ภายใต้แผน 5 ปี (2565-2570) ที่จะรุกธุรกิจนอนไรซ์ (Non Rice) ธุรกิจอาหารที่ไม่ใช่ทำแค่ข้าวสารมากขึ้น ถือเป็นการปรับทิศทางธุรกิจครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี

สำหรับแผน 5 ปีนั้น เบื้องต้นบริษัทเตรียมงบไว้ 1,000-2,000 ล้านบาท ลงทุนในธุรกิจนอนไรซ์ (Non Rice ) เช่น แพลนต์เบส, เรดดี้ทูอิท เพื่อสุขภาพ, อาหารทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน, อาหารเสริม, นมทางเลือก ฟังก์ชันนัลดริงก์ เครื่องดื่ม และธุรกิจกระจายสินค้า เป็นต้น เน้นการลงทุนในรูปแบบจอยต์เวนเจอร์เป็นหลัก ซึ่งได้เริ่มศึกษาพูดคุยกันบ้างแล้ว หรือปีหน้าน่าจะได้เห็นกลุ่มเครื่องดื่มออกมาอย่างน้อย 1 ตัว เป็นต้นตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี 2570 รายได้จากนอนฟูดจะมีสัดส่วน 50% เท่ากันกับรายได้ข้าวถุง หรือ 5 ปีนับจากนี้บริษัทคาดหวังว่าจะทำรายได้สูงถึง 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักมาจาก 3 ส่วน คือ 1. ข้าวถุง 70-80% 2. ศูนย์อาหาร 10-20% และ 3. อื่นๆ โดยมองว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้รวมราว 2,000 กว่าล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งในส่วนของศูนย์อาหาร ปีนี้จะเพิ่มอีก 1 แห่ง ขณะที่รายได้ยังติดลบอยู่ ปีหน้าคาดว่าจะกลับมาปกติ

นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดข้าวถุงยังคงมีมูลค่า 50,000 ล้านบาท จากช่วงที่ผ่านมามีขึ้นลงบ้าง แต่ในแง่ปริมาณยังทรงตัวที่ 5 ล้านตัน/ปี จากทิศทางคนไทยบริโภคข้าวลดลง เฉลี่ยเหลือเพียง 78 กก./คน/ปี แต่ปีนี้เชื่อว่าการบริโภคข้าวจะดีขึ้นจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

ส่วนในเรื่องของการปรับราคาข้าวถุงนั้น มั่นใจว่าจะยังไม่มีการปรับราคาไปอีกยาว หรือปีนี้ไม่มีการปรับราคาขึ้นแน่นอน เพราะกำลังอยู่ในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวช่วงเดือน ก.ย. 65 ที่จะถึงนี้ แม้ต้นปีที่ผ่านมาต้นทุนพุ่งไป 30% แต่ผลผลิตของฤดูกาลใหม่จะช่วยชดเชยยอดขายที่มีต้นทุนสูงช่วงครึ่งปีแรกได้

ล่าสุดในส่วนของข้าวมาบุญครอง ปกติใช้งบตลาด 70-80 ล้านบาท ปีนี้ใช้เพิ่มอีก 30 ล้านบาท กับแคมเปญพิเศษ ฉลองครบรอบ 44 ปีข้าวมาบุญครอง จัดหนัก แจกทองคำทุกสัปดาห์ เพื่อแทนคำขอบคุณผู้บริโภคที่เชื่อมั่น ไว้วางใจเลือกข้าวมาบุญครอง กับรางวัลมากมาย เช่น ทองคำ 44 เส้น, รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า, และรางวัลใหญ่ คือ รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น อีกทั้งยังได้เปิดตัว แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง นักแสดง นักร้อง และพิธีกรชื่อดัง เป็นแอมบาสซาเดอร์คนแรกของแบรนด์ด้วย ที่สำคัญ ปีนี้บริษัทได้พัฒนาแพกเกจจิ้งสำหรับบรรจุข้าว และถือเป็นรายแรกของโลกที่นำนวัตกรรมวาล์วล็อก มาใช้ในบรรจุภัณฑ์ข้าวเพื่อกักเก็บความหอม และคุณภาพความสดใหม่ของข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดูที่รักษาความสดใหม่ของข้าวได้ตลอดทั้งปี

 

ที่มา: https://mgronline.com/business/detail/9650000071188 

วันที่ 27 กรกฎาคม 2565