จบไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่กับงาน Sustainability Expo (SX 2024) มหกรรมด้านความยั่งยืนใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ระหว่างวันที่ 27 กันยายน-6 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

งานปีนี้ชูแนวคิด “สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า” (Good Balance, Better World) และ “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability)

ตลอด 10 วันการจัดงาน มีประชาชนและผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ จำนวนมากเข้าชม พร้อมร่วมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ จากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ อัพเดตเทรนด์ ไอเดีย เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงต้นแบบการพัฒนาเมือง ชุนชนที่ยั่งยืน ผ่านการบรรยาย เสวนา เวิร์กช็อป นิทรรศการ ศิลปะ รวมถึงอาหารแห่งอนาคต

ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟ เวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานอำนวยการจัดงาน SX2024 กล่าวในวันเปิดงานว่า Sustainability Expo กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือการจัดงานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียน

Advertisement
สำหรับงานปีนี้ ขยายเครือข่ายพันธมิตรการจัดงานร่วมขับเคลื่อนให้ครอบคลุมเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ โดยมีภาครัฐ เอกชน วิทยากร และผู้เชี่ยวชาญกว่า 600 รายทั่วโลก เครือข่ายธุรกิจที่ยั่งยืนจากบริษัทและองค์กรชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่งมาร่วมกันแบ่งปันองค์ความรู้และแนวคิดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่สร้างสรรค์ให้โลกเกิดความสมดุล

ผลักดันไปสู่ทศวรรษแห่งการลงมือทำ “Decade of Action” เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนอย่างแท้จริง

พร้อมทั้ง ขับเคลื่อนแนวทาง “B2C2B” ที่ยึดผู้บริโภคเป็นแกนกลางในการดำเนินงานเกี่ยวกับความยั่งยืนในทุกมิติ เชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค และผู้บริโภคจะเชื่อมโยงกลับสู่ภาคธุรกิจ เป็นวงจรแห่งความยั่งยืนต่อไป

ให้ทุกกลุ่มวัยร่วมกันหาคำตอบการสร้างโลกที่ยั่งยืนอย่างสมดุลในทุกมิติ เพราะ “ความยั่งยืนเป็นเรื่องของพวกเราทุกคน”

ขณะที่กลุ่ม ปตท. หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง (Co-founder)ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ ในงานนี้ด้วย

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ย้ำว่า ปตท. ฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ มุ่งดำเนินธุรกิจบนหลักการ “ความยั่งยืนอย่างสมดุล” ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ภายใต้วิสัยทัศน์ “ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน”

พร้อมเป็นผู้นำขับเคลื่อน ส่งเสริมแนวคิด สร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการ “ร่วมพลังกันลงมือทำ” เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อทุกชีวิตและสิ่งแวดล้อม ทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นและยั่งยืน

นอกจากพันธกิจหลักในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ปตท. ยังมุ่งบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593 โดยผสานการบริหารจัดการทั้งกลุ่ม ปตท. ผ่านแนวทาง C3 ได้แก่

-Climate Resilience Business การปรับ Portfolio พิจารณาเรื่องการปลดปล่อยคาร์บอน (Carbon Emission) ควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ

-Carbon-Conscious Asset การปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ใช้พลังงานสะอาด อาทิ Hydrogen การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิต รวมทั้งการนำคาร์บอนไดออกไซด์แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ (Carbon Capture and Utilization: CCU)

-Coalition, Co-Creation, and Collective Efforts for All ประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเป็นแกนหลักของประเทศในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีในการลดก๊าซเรือนกระจก โดยใช้เทคโนโลยีการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage: CCS) รวมถึงการเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ ผ่านการปลูกและบำรุงรักษาป่า

อีกทั้งเป็นโอกาสให้เกิดเป็นธุรกิจใหม่ด้านการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Capture and Storage (CCS) และธุรกิจไฮโดรเจนด้วย

ภายในงาน กลุ่ม ปตท. จัดกิจกรรมทั้งเนื้อหาสาระและบันเทิงเสริมความรู้ เพื่อตระหนักถึงความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ให้ผู้เยี่ยมชมงานร่วมสนุกและสัมผัสประสบการณ์จริง อาทิ การโชว์เคสเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จากบริษัทในกลุ่ม ปตท. อย่าง CCS บูธถ่ายรูปกิจกรรมรักษ์โลกของชาว GEN S คนเจนใหม่หัวใจยั่งยืน และตู้คีบตุ๊กตา Godji ลุ้นรับตุ๊กตา Godji Energy Hero limited edition

นอกจากนี้ในงานมี 10 กิจกรรมไฮไลต์
-SEP INSPIRATION: แรงบันดาลใจจากองค์กรต้นแบบที่นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม และนิทรรศการ Prologue ที่จะนำท่านไปสำรวจปัญหาและค้นพบความหวังในการสร้างความยั่งยืน
-Better Me: เตรียมความพร้อมสู่อนาคตที่ยั่งยืน พบกับนวัตกรรมล้ำสมัย อาทิ หุ่นยนต์ Mr. Muse และเรียนรู้เทรนด์อาหารแห่งยุค เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
-Better Living: วิธีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยจากองค์กรชั้นนำ
-Better Community: สำรวจแนวทางการสร้างสังคมที่ดีและยั่งยืน ผ่านโครงการที่ประสบความสำเร็จ และนวัตกรรมเมืองแห่งอนาคต
-Better World: ชื่นชมผลงานศิลปะที่สะท้อนมุมมองด้านความยั่งยืน ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อมและสังคม
-SX Food Festival: สัมผัสประสบการณ์อาหารแห่งอนาคตที่ทั้งดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในธีมBack to The Future พร้อมพบกับเชฟชื่อดัง
-Kids Zone: พื้นที่แห่งการเรียนรู้สำหรับเยาวชน ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ และนิทรรศการ Biodiversity Exhibition ที่จะปลูกฝังความรักในความหลากหลาย
ทางชีวภาพ
-SX MARKETPLACE: เลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากผู้ประกอบการกว่า 280 ร้านค้า ท่ามกลางบรรยากาศสวนใจกลางเมือง
-SX REPARTMENTSTORE: ร่วมส่งต่อคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้สังคม ผ่านการบริจาคและเลือกซื้อสินค้ามือสองคุณภาพดี พร้อมมีส่วนร่วมในการจัดการบรรจุภัณฑ์และขยะอย่างถูกวิธี
-B2B Event: เจาะลึกแนวทางธุรกิจสู่ความยั่งยืน ผ่านงานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจที่ครอบคลุมทุกมิติ

ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ให้ทุกภาคส่วนมาร่วมกิจกรรมต่างๆ พร้อมชมนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างสมดุลทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ช่วยกันลดฟืนในกองไฟให้โลกเดือดลดลง และไขรหัสคำตอบกอบกู้โลกเข้าสู่สมดุลอย่างยั่งยืน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/economy/news_4839442

ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_4839442