เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 5 องค์กรธุรกิจต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลก ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งเครือข่าย TSCN (Thailand Supply Chain Network) และพันธมิตรหลากหลายภาคส่วน
ร่วมจัดงาน Sustainability Expo 2024 (SX 2024) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนบนแนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 12.00 น. ประชาชนหลากหลายช่วงวัยทั้งนักเรียน นักศึกษา พนักงานหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หลั่งไหลมาร่วมงานอย่างคึกคัก หมุนเวียนเข้าชมการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อหาความรู้ และร่วมกันแลกเปลี่ยนแนวคิดสำหรับการรับมือกับสถานการณ์โลกเดือดอย่างยั่งยืน ทั้ง 10 โซน
ต่อมาเวลา 14.00 น. คณะผู้บริหารองค์กรชั้นนำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทยอยเดินทางมาร่วมพิธีเปิดงาน Sustainability Expo 2024 (SX 2024) อย่างคับคั่ง อาทิ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา, ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประธานกรรมการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์, คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิก สภากาชาดไทย
พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้, ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
อีกทั้งยังมีตัวแทนจากกลุ่มภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมพิธีเปิดงานกันอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
กล่าวเปิดงาน ว่า วันนี้ตนรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาปาฐกถา ซึ่งตนขอชื่นชมคณะผู้จัดงานด้วยใจจริง ที่ได้ยืนยันเจตนารมณ์สืบสานการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะโลกเรามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งประชากรของโลกเราต้องรับมือ ปรับตัวร่วมกันทะลุขีดความสามารถในการบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาอันเป็นกติกาสากล อย่าง Sustainable Development Goals ภายในปี 2030
“พฤติกรรมของมนุษย์เป็นผู้สร้างและผู้ทำลาย เราสร้างสรรค์อะไรมากมายก่ายกอง เช่น เอไอ แต่สุดท้ายพอเรากลับมาคิดแล้ว ทุกสิ่งที่มนุษย์สร้างนั้นไม่ว่านวัตกรรมหรือการผลิตเพื่อลบริโภค เราล้วนต้องเอาทรัพยากรและวัตถุดิบมาจากโลกทั้งนั้น
โลกใบนี้ไม่ใหญ่เลย ถ้านับประชากรอีก 10-20 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนกระโดดไปถึง 9 พันล้านคน แล้ววันนี้อยากเรียนถามทุกท่านว่า เราบริโภคด้วยความเป็นเหตุเป็นผลหรือเปล่า หรือ เราบริโภคด้วยความโลภ เช่น หากเหลียวมองกลับไปในบ้านของท่านมันไม่มีประโยชน์ให้กับชีวิตเราเลย แต่เรากองมันไว้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์
นักวิทยาศาสตร์เขาเตือนว่า สิ่งของในบ้านกว่า 70 เปอร์เซ็น ไม่มีความจำเป็นกับการใช้ชีวิตเลย ผมขอเตือนความจำท่านว่า ของแต่ละชิ้นนั้นมันมีทุนของมัน เราต้องเอาอะไรไปแลก ซึ่งสิ่งที่เอาไปแลกก็มาจากแผ่นดินอย่างน้ำมันเริ่มจะหมดแล้ว เราก็เริ่มกำลังหันมาพูดถึงพลังงานทดแทน” ดร.สุเมธระบุ
ดร.สุเมธกล่าวว่า ตอนนี้ชาวโลกมีกระแสขึ้นมาว่า กรีน zero emissions circular economy ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกัน ดังนั้นถ้าเรายังทำอยู่แบบนี้เราจะอยู่ไม่ได้ ต้องกลับไปให้พอเพียงกับทุนที่เรามีอยู่ ซึ่งแต่ละประเทศมีทุนไม่เหมือนกัน
“ผมอายุ 86 ปีแล้ว ตายวันนี้พรุ่งนี้ มันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่แผ่นดินนี้ลูกหลานเราต้องอยู่ต่อ แล้วเขาต้องส่งต่ออีก เราต้องทำเพื่อตัวเองและส่งต่อทรัพยากรทั้งหลายให้มันมีพอเพียงถึงลูกเราด้วย แล้วให้ลูกเราทะนุถนอมทุกสิ่งทุกอย่างส่งถึงให้หลานเรา นี่คือคำว่า ยั่งยืน เราต้องเปลี่ยนความปรารถนาให้เป็นการลงมือกระทำให้ได้
คนแก่อย่างผมก็คงตั้งความหวังว่า อยากเห็นแผ่นดินนี้รอด อยากเห็นลูกหลานเรารอดบนแผ่นดินทอง แล้วเราเชื่อมั่นว่าเราสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง ถ้าหากเราร่วมกันได้สปิริตแบบนี้” ดร.สุเมธกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า งาน SX2024 อัดแน่นด้วยกิจกรรมและขนนวัตกรรมมาโชว์จัดเต็มทุกวัน ได้แก่ 1.โซน SEP INSPIRATION องค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ อาทิ มูลนิธิชัยพัฒนา
รวมถึง Prologue นิทรรศการ Immersive Experience ที่จะสะท้อนทุกมุมมองของปัญหาที่เกิดจากพัฒนาแบบก้าวกระโดดและกิจกรรมของมนุษย์ ค้นพบความหวังและหนทางไปต่อจากคนที่ลงมือทำจริงเพื่อโลก ที่จะทำให้คุณตระหนักว่าเรื่องของความยั่งยืนเป็นเรื่องของเราทุกคน
2.โซน Better Me เตรียมพร้อมในทุกก้าวของชีวิตสู่การสร้างวิถีที่ยั่งยืน โดยในปีนี้ มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น Mr. Muse หุ่นยนต์โรโบเทสเปียน ฮิวมานอยด์อัจฉริยะ รวมทั้งอัพเดทเทรนด์อาหารแห่งยุคเพื่อเตรียมตัวสูงวัยอย่างมีคุณภาพและความสุข
3.โซน Better Living การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมีสาเหตุเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ค้นพบวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และเรียนรู้จากองค์กรชั้นนำที่ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การลดการปล่อยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน
4.โซน Better Community ว่าด้วยการสร้างสังคมที่ดีร่วมกัน ผ่านผลงานที่ทำอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลสำเร็จทั้งในมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชนจากภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ระดับบุคคลไปจนถึงหน่วยงานเอกชนและภาครัฐ อีกทั้งยังมีนวัตกรรมเมืองน่าอยู่แห่งอนาคตจากองค์กรชั้นนำ
5.โซน Better World ศิลปะสร้างค่า สู่สมดุลโลก โซนนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานศิลปะ ที่หลากหลาย สะท้อนมุมมองด้านความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม อาทิ ภาพถ่าย จิตรกรรม ประติมากรรม และผลงานศิลปะอื่น ๆ อีกมากมาย
6.โซน SX Food Festival ปีนี้มาในธีม Back to The Future มหกรรมด้านอาหารยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี พาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสู่อนาคตด้วยอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พบกับ Celebrity Chefs มากมาย รวมถึงผู้ประกอบที่สร้างสรรค์เมนูอาหารที่ช่วยสร้างสมดุลที่ดีต่อโลกและดีต่อคุณ
7.โซน Kids Zone พื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตด้วยนิทรรศการและกิจกรรม “ผ่านการเล่น-ทดลอง-เรียนรู้” พบกับความรู้ต่าง ๆ ที่เสริมสร้างจิตนาการ เสริมทักษะให้กับเด็ก ๆ โดยมีไฮไลท์ คือ นิทรรศการ Biodiversity Exhibition รู้ รักษ์ พิทักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ
8.โซน SX Marketplace ตลาดนัดสร้างสรรค์สินค้ายั่งยืน พบปะผู้ประกอบการตัวจริง ท่ามกลางบรรยากาศสวนกลางเมือง แบ่งโซนให้สายกรีน สายคราฟ และสายช้อป ได้ร่วมอุดหนุนร้านค้าที่มาร่วมงานกว่า 280 ร้านค้า
9.โซน SX Repartmentstore พื้นที่สำหรับส่งต่อสิ่งของนอกสายตา เพื่อมอบคุณค่าให้แก่สังคมและยังได้ ช็อปสินค้ามือสองคุณภาพดี เพื่อนำรายได้มอบให้การกุศล นอกจากนี้ยังมีเป็นจุด drop off บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วและขยะอื่น ๆ เพื่อนำไปบริหารจัดการอย่างถูกวิธีหรือนำกลับสร้างคุณค่าใหม่ได้อีกครั้ง
10.โซน B2B Event บริเวณชั้น 2 ซึ่งรวบรวมงานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่เจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืนตอบโจทย์ทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
สำหรับงาน Sustainability Expo (SX2024) สามารถเข้าร่วมได้ฟรี ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_4815335